เมธาบ้านผือวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

ร้านคนเห็นปุ๋ย อำเภอบ้านผือ ขออนุโมทนาบุญกับ









ขออนุโมทนาบุญกับ
ร้านคนเห็นปุ๋ย อำเภอบ้านผือ
มอบปัจจัยให้กับหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน จุดบริการอำเภอบ้านผือ ให้ไว้เพื่อบริหารจัดการในกานช่วยเหลือสังคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด
จึงขอน้อมอัญเชิญบารมีแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง ให้ช่วยอุปถัมภ์ค้ำชูท่านและครอบครัว ขอให้ท่านเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ปรารถนาสิ่งใดขอให้ได้สิ่งนั้น พรั่งพร้อมด้วยบารมี ลาภยศ สรรเสริญ สุขภาพร่างกายแข็งแรงยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเทอญสาธุ
 
 
 
อำเภอบ้านผือ – ทอดผ้าป่าซื้ออุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลน
 




 วันอาทิตย์ที่22ตุลาคม2566น.ส.ตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์ เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)หัวหน้าศูนย์ หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 481 หมู่ที่ 1 บ้านหัวคูตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ซึ่งมีภารกิจในการทำงานเพื่ออุทิศให้สังคมโดยไม่หวังผลตอบแทนและจัดบริการการแพทย์แก่ผู้ป่วยฉุกเฉินก่อนส่งโรงพยาบาล ตลอด 24 ชั่วโมง 






เพื่อให้ผู้รับบริการที่เจ็บป่วยฉุกเฉินและประสบอุบัติเหตุ ได้รับการบริการที่มีมาตรฐานอย่างทันท่วงที ซึ่งจะเป็นการลดการเจ็บป่วยหรือบาดเจ็บและลดความสูญเสีย ค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี 




จึงกำหนดทอดผ้าป่าสามัคคี เพื่อจัดหาทุนซื้ออุปกรณ์การแพทย์ ในวันอาทิตย์ที่ 22 ตุลาคม2566น.ส.ตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์ เมธาบ้านผือ(501ป๋อง)หัวหน้าศูนย์ หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้จัดทำทอดผ้าป่าสามัคคี ณ.ศูนย์ หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี







เมื่อวันอาทิตย์ที่22ตุลาคม2566ตั้งแต่เวลา09.09น.เช้าวันนี้ ประธานพิธีฝ่ายสงฆ์ เจ้าอธิการเลิศพันธุ์ จารฺธโม และประธานพิธีฝ่ายฆารวาส นาย จรูญ บุญหิรัญ นายอำเภอบ้านผือได้มอบหมายนายบัญชารัก  จิระธนนุกูลเป็นตัวแทนมาเป็นประธานพิธี







กล่าวเปิดงานและผู้นำถวายผ้าป่าสามัคคีพร้อม นายนิยม เทพบุผา(เครือนิยมกรุ๊ป)เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านผือเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรม และประชาชนที่มาร่วมพิธีทอดผ้าป่าสามัคคีในครั้งนี้จำนวนเงินทอดผ้าป่าอย่างไม่เป็นทางการเป็นจำนวนเงิน75687บาทรายละเอียดเพิ่มเติมจะรายงานให้ทราบภายหลัง


ศูนย์รวม ข่าวออนไลน์บ้านผือ บ้านผือทีวีนิวส์  อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี 0612301227 ID LINE 0612301227




อำเภอบ้านผือ – ทอดผ้าป่าซื้ออุปกรณ์การแพทย์ขาดแคลน










วันเสาร์ที่ 21-22 ตุลาคม2566ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพทอดผ้าป่าสามัคคีเพื่อจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ขาดแคลนและชำรุดเสียหายและซ่อมแซมรถตู้พยาบาล จัดซื้อโลงศพให้กับศพไร้ญาติหรือศพผู้ยากไร้ ผ้าขาวห่อศพทอดผ้าป่าสามัคคี ณ.จุดบริการหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีบ้านเลขที่481หมู่1ตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

 


 


ประธานฝ่ายสงฆ์ เจ้าธิการเลิศพันธุ์ จารุธมฺโม   ประธานฝ่ายฆราวาสนายกฤตธน เหมศิริเจริญ รองประธาน นางสาว ตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์ (เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)นายจีรพันธ์ ศรีวิรัตน์ นางสาว รังสิมา สุเสงียม นางสาว วิลาวัลย์  สิโสภา นายพรม เข็มพรหม ฯลฯ

 


 



กำหนดการ วันเสาร์ที่21ตุลาคม2566 ตั้งผ้าป่าและแห่รอบเขตเทศบาลตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี วันอาทิตย์ที่22ตุลาคม2566เวลา09.00น นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบ้านผือให้เกียรติมาเป็นประธาน พิธีทอดผ้าป่าสามัคคีที่จุดบริการหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมอำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี เวลา09.10น.ประธานพิธีจะได้กล่าวเปิดงาน

 

 


เวลา10.09น.พระสงฆ์เจริญพุทธมนต์ เวลา10.49น.นายจรูญ บุหิรัญ นายอำเภอบ้านผือประธานพิธีนำถวายผ้าป่าสามัคคีพร้อมประชาชนชาวอำเภอบ้านผือเข้าร่วมพิธีถวายผ้าป่าสามัคคีเวลา11.00น.ถวายภัตตาหารเพลแด่พระภิกษุสงฆ์เวลา12.00น. ร่วมรับประทานอาหารและเวลา13.00น.แจ้งยอดผ้าป่าสามัคคีประจำปี2566เป็นอันเสร็จพิธี

 

 


 

ศูนย์รวม ข่าวออนไลน์บ้านผือ บ้านผือทีวีนิวส์  อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี 0612301227 ID LINE 0612301227

 

 อำเภอบ้านผือ- รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำบาดเจ็บสองราย


วันพุธที่20กันยายน2566เมื่อ เวลา08.30 น. ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเหตุ รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำอยู่ที่เกิดเหตุเส้นทางถนนชนบทบำรุงหน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านผือ ตรงคอสะพานทางขาออก บ้านผือ อุดร มีผู้บาดเจ็บสองคน เมื่อได้รับแจ้ง ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานี พร้อม หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี


 

ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานี
 
รุดที่เกิดเหตุเส้นทางถนนชนบทบำรุงหน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านผือ ตรงคอสะพานทางขาออก บ้านผือ อุดรเมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พบรถจักรยานยนต์สองคันพลิกคว่ำกลางถนนชนบทบำรุงหน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านผือ ตรงคอสะพานทางขาออก บ้านผือ อุดรมี ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานี


ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์หมายเลขทะเบียน 1กด736 อุดรธานีผู้ขับขี่เป็นผู้หญิงนอนอยู่กลางถนนได้รับบาดเจ็บที่ขาขวา ทราบชื่อภายหลัง ชื่อนางรุ่งเสน่ห์ทองทิพย์ อายุ55ปีอยู่บ้านเลขที่352หมู่8 ชุมชนบ้านศรีสำราญ ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

ห่างไม่กี่เมตรก็พบรถจักรยานยนต์คู่กรณีได้รับความเสียหายเล็กน้อยส่วนผู้ขับขี่เป็นชาย(สงวนชื่อ นามสกุล)ได้รับบาดเจ็บตรงที่หัวเข่าทั้งสองข้างทราบภายหลังว่าเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ  อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเบื้องต้นหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและทำแผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งสอง

เวลาต่อมาร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์สถานที่เกิดเหตุเป็นที่เรียบร้อยและได้บันทึกภาพและลงบันทึกไว้เป็นหลักฐานจากเหตุการณ์ รถจักรยานยนต์ชนกับรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำอยู่ที่เกิดเหตุเส้นทางถนนชนบทบำรุงหน้าโรงเรียนอนุบาลบ้านผือ ตรงคอสะพานทางขาออก บ้านผือ อุดรเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติมทั้งสองคนว่าใครผิดใครถูกจากเหตุการณ์รถจักรยานยนต์ชนกันในครั้งนี้ เพื่อจะได้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป


 

ส่วนหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือนำผู้บาดเจ็บนำส่งโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้หมอรักษาอาการบาดเจ็บต่อไป

 

รายละเอียดโปรดติดตาม ศูนย์รวม ข่าวออนไลน์บ้านผือ บ้านผือทีวีนิวส์  อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี 0612301227 ID LINE 0612301227  เมธาบ้านผือ508

 

 อำเภอบ้านผือ -ยายวัย71ปีขับรถจักรยานยนต์เสียหลักพลิกคว่ำดับคาที่

 วันศุกร์ที่8กันยายน2566เมื่อ เวลา10.00 น.ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้รับแจ้งจากพลเมืองดี ว่ามีเหตุ รถจักรยานยนต์พลิกคว่ำมีผู้เสียชีวิตอยู่ที่เกิดเหตุเส้นทางระหว่างภูดิน​หนองหิน เมื่อได้รับแจ้ง.ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานีพร้อม แพทย์เวรรถกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านผือจังหวัดอุดรธานีและหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

รุดที่เกิดเหตุถนนเส้นทางระหว่างภูดินหนองหิน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุก็พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้าพลิกคว่ำกลางถนนและคนขับเป็นหญิงเสียชีวิตคารถจักรยานยนต์คาดว่าคงจะเสียชีวิตมาหลายชั่วโมงแล้ว ทราบชื่อผู้เสียชีวิตภายหลัง ชื่อ นาง ขาว ใจบุญ อายุ 71ปี อยู่บ้านเลขที่140หมู่11 ตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีต่อมา ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวน สภ.บ้านผือได้ตรวจที่เกิดเหตุได้บันทึกภาพข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน





เวลาต่อมาแจ้ง.ร.ต.ท.อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวน สภ.บ้านผือ พร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านผือร่วมชันสูตรพลิกศพนาง ขาว ใจบุญ อายุ 71ปีเป็นที่เรียบร้อย ก็มอบศพให้หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)นำส่งโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้ญาติมารับไปทำพิธีทางพระพุทธศาสนาต่อไป

  อำเภอบ้านผือ-มอเตอร์ไซด์ เสียหลักลงข้างทางอาการบาดเจ็บเล็กน้อย

วันอาทิตย์ที่3กันยายน2566เมื่อ เวลา12.30 น.รับแจ้งเหตุ: ศูนย์รับแจ้งเหตุอุดรธานีเหตุ: มอเตอร์ไซด์ ล้มเองที่เกิดเหตุ : ถนนบ้านน้อยดงยาง ตำบลข้าวสาร อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีเมื่อได้แจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ
 




พบรถจักรยานยนต์สีขาว ดำ หมายเลขทะเบียน 1 กว อุดรธานี9589อยู่ข้างถนนห่างไม่กี่เมตรก็พบผู้บาดเจ็บเป็นชาย  1  ราย(สงวนชื่อ นามสกุล) มีแผลฉีกขาดและถลอกตามร่างกาย  หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)




ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี.เพื่อมอบให้หมอดูแลรักษาต่อไป
 
 
 
อำเภอบ้านผือ -กระบะพลิกคว่ำลงข้างทาง บาดเจ็บ2ราย 
 
ไป

 

วันเสาร์ที่ 2 กันยายน2566เมื่อ เวลา 00.30 น. รับแจ้งเหตุ: ศูนย์รับแจ้งเหตุอุดรธานีว่ามีเหตุ: กระบะลงข้างทางที่เกิดเหตุ : ถนนบ้านผือทางออกไปบ้านค้อ ตำบลบ้านค้อ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีเมื่อได้แจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี



ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบรถกระบะสีดำหมายเลขทะเบียน ผค469 อุดรธานี พลิกคว่ำตกข้างทาง ไม่ห่างไม่กี่เมตรก็พบผู้บาดเจ็บ 2รายเป็นขาย(สงวนชื่อ นามสกุล)เจ็บกระดูกสันหลังเป็นหญิง(สงวนชื่อ นามสกุล)อายุ19 ปี อาศัยอยู่บ้านสาวแล ตำบลโพธิ์ตาก ออำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย




  มีแผลถลอกที่มือหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

 

แก็งค์โจ๋ถูกคู่อริยิงหน้าอกหนุ่ม17ดับคาบ้าน

วันพุธที่ 30 สิงหาคม 2566เมื่อเวลา 20.10 น. พ.ต.ต.เกียรติศักดิ์ โพธิ์พระ สว.(สอบสวน) สภ.บ้านเทื่อม อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุจากพลเมืองดีว่า มีคนถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัส ที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 13 บ้านเทื่อม ตำบลเขือน้ำ ซอยตรงข้ามกับ อบต.เขือน้ำ เมื่อได้รับแจ้ง พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ธนะกิจไพโรจน์ ผกก.สภ.บ้านเทื่อมพร้อม นำกำลังตำรวจสืบสวน เจ้าหน้าที่แพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือ เจ้าหน้าที่ กู้ชีพ อบต.เขือน้ำ และหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุก็พบเป็นผู้ชายถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสภายในบ้านเวลาต่อมาได้ ทราบชื่อภายหลังกรณีชายที่ถูกยิงชื่อนายพีรพัฒน์  แสงประเสริฐอายุ17ปีอยู่ที่บ้านเลขที่ 52 หมู่ 13 บ้านเทื่อม ตำบลเขือน้ำ ซอยตรงข้ามกับ อบต.เขือน้ำเวลาต่อมารถกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้นำนายพีรพัฒน์  แสงประเสริฐอายุ17ปีถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสนำส่งโรงพยาบาลบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อช่วยเหลือชีวิตนายพีรพัฒน์  แสงประเสริฐที่ถูกยิงตรงหน้าอกด้านขวา กระสุนฝังในนายพีรพัฒน์  แสงประเสริฐทนพิษบาดแผลไม้ไหวได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา โรงพยาบาลบ้านผือได้ประสานงานไปยัง หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือจังหวัดอุดรธานี



 
เมื่อได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลบ้านผือหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีไปที่โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีต่อมาได้ทำการนำร่างผู้เสียชีวิตจาก โรงพยาบาลบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีไปผ่าเอากระสุนออกที่ โรงพยาบาลเมืองอุดรธานีต่อไป หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501ได้มอบโลงศพ ให้กับทางครอบครัวผู้เสียชีวิตเป็นที่เรียบร้อย

 

 หมายเหตุ

พ.ต.อ.ศักดิ์สิทธิ์ ธนะกิจไพโรจน์ ผกก.สภ.บ้านเทื่อม  สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ออกติดตามนายแป๊ปคนที่ก่อเหตุ โดยญาติให้ข้อมูลว่านายแป๊ปทำงานอยู่ในโรงน้ำตาล แห่งหนึ่งใน อำเภอบ้านผือ และเมื่อโทรศัพท์ติดต่อนายแป๊ปได้ ก็ให้การปฎิเสธเสียงแข็งว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุ ซึ่งตำรวจจะได้รวบรวมหลักฐาน และพยานบุคคล เพื่ออนุมัติศาลออกหมายจับ นำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

  อำเภอบ้านผือ รถจักรยานยนต์ชนหลักลาย ดับคาที่

วันจันทร์ที่ 14สิงหาคม2566  เมื่อเวลา 21.01 น.  ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้รับ รับแจ้งเหตุ: จากพลเมืองดีว่ามีเหตุ: มอเตอร์ไซด์ ชนหลักลายหน้าร้านเนื้อย่างเจ้าขวัญ  ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ได้รับแจ้งน.ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านผือ และหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี


รุดอออกตรวจสอบไปที่เกิดเหตุสถานที่เกิดเหตุ : หน้าร้านเนื้อย่างเจ้าขวัญ  ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีก็เป็นพบจักยานยนต์สีขาว ไม่มีแผ่นป้ายทะเบียนค่ำตะแคงข้าง เสาหลักลายอยู่ข้างริมถนนไม่ห่างไกลก็พบร่างชายจมน้ำเสียชีวิตเวลาต่อมาอาสาสมัครเมธาธรรมบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้ช่วยนำร่างชายดังกล่าวขึ้นมาจากคลองน้ำอย่างยากลำบากเมื่อนำร่างชายดังกล่าวขึ้นมาจากคูคลองน้ำเรียบร้อยเวลาต่อมา.ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีพร้อมแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านผือได้ชันสูตรศพตรวจสอบตามร่างกายผู้เสียชีวิตก็


ก็พบทรัพย์สิ้นอยู่ในกระเป๋าเงินมีอยู่จำนวนหนึ่งและก็พบบัตรประชาชนทราบชื่อผู้เสียชีวิต นายดุสิต(สงวนนามสกุล)74หมู่3ตำบลวาริน อำเภอศรีเมืองใหม่จังหวัดอุบลราชธานีเป็นที่เรียบร้อย


เวลาต่อมา.  ร.ต.อ.รณภพ ทิพย์สุวรรณ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี ก็มอบรางผู้เสียชีวิตให้หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี นำส่งโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี เพื่อรอญาติมารับศพไปทำพิธีต่อไป
 
 
 อำเภอบ้านผือ - ฝนตกถนนลื่นรถกระบะลงข้างทางถนนบ้านผือ -น้ำโสม บริเวณ ส. กินเกลี้ยงอำเภอบ้านผือ
 
 


 วันอาทิตย์ที่13สิงหาคม2566เมื่อเวลา 21:07น.กู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือได้รับแจ้งจากสถานีตำรวจภูธรบ้านผือว่ามีเหตุรถกระบะลงข้างทางถนนบ้านผือ -น้ำโสมบริเวณ ส. กินเกลี้ยงขาเข้าบ้านผือมีผู้ได้รับบาดเจ็บเมื่อได้รับแจ้งเมื่อได้รับแจ้งเหตุ หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ

รุดไปที่เกิดเหตุก็พบ กระบะสีขาวหมายเลขทะเบียน ผษ 4819 ชนบุรีลงข้างทางถนนบ้านผือ น้ำโสมบริเวณ ส. กินเกลี้ยงขาเข้าบ้านผือ  ผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย(สงวนนาม)อายุประมาณ 50 ปีมีแผลฉีกขาดที่ข้อเท้าด้านซ้ายและแผลถลอกตามร่างกายเมธาบ้านผือ

อหมายเหตุผู้ขับรถได้กล่าวว่าในช่วงนั้นตนขับรถมุ่งหน้าเข้าบ้านผือขณะนั้นได้เกิด ฝนตกถนนลื่นตนควบคุมรถไม่อยู่จึงทำให้เกิดเหตุดังกล่าวเวลาต่อมาหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ



นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อม กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแล้วนำส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้อยู่ในความดูแลตามขั้นตอนต่อไป 









 
 

วันพฤหัสบดีที่3สิงหาคม2566เวลา 08.10 น.หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ รับแจ้งเหตุ: ศูนย์รับแจ้งเหตุอุดรธานีว่ามีพลเมืองดีแจ้งเหตุ: ซาเล้ง  ชนกับ รถเก๋งที่เกิดเหตุ : ถนนก่อนถึงโรงเรียนเตรียมอุดม  ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เมื่อได้รับแจ้งเหตุ หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ นำทีมโดยนางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมรถพยาบาลเมธาบ้านผือ และ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือ




ออกตรวจสอบเมื่อถึงจุดเกิดเหตุก็พบรถเก๋งฮอนด้า ซีวิค สีขาวหมายเลขทะเบียน 2กฮ7428  ก.ท.ม. ห่างไม่กี่เมตรก็พบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ หมายเลขทะเบียน  คกษ 19 อุดรธานี ติดพว่งข้าง พบผู้ได้รับบาดเจ็บสองคน เป็นชาย 1คน หญิง1คน(สงวนนาม)ได้รับบาดเจ็บตามร่างกายเวลาต่อมาอาสาสมัครสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี

รายงานพิมพ์ข่าวโดย นางสาวตรีทิพย์นิภา โชติปภาวะรินทร์(ป๋อง)เมธาบ้านผือ501

การนำเสนอภาพ คลิปวีดีโอ อุบัติเหตุ อาชญากรรม ในเพจมีจุดประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ ผลงานของอาสาสมัคร หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาบ้านผือ เท่านั้น โดยไม่มีเจตนา หรือ เกี่ยวข้องกับบุคคล หรือ ทุกกรณีที่ปรากกฏในภาพหรือคลิปวีดีโอนั้นๆ และไม่มีผลเกี่ยวข้องใดกับทางคดีความทั้งสิ้น หากผิดพลาดประการใดในการนำเสนอไม่ว่าข้อเท็จจริงหรือสิ่งใด ทางเพจหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาบ้านผือ ต้องกราบขออภัยไว้

ณ ที่นี้เจ็บป่วย - ฉุกเฉิน โทร 1669/087-105-9749092-295-8333/098-321-7999

☎️ศูนย์รับแจ้งเหตุกู้ภัยสว่างเมธาบ้านผือ 168.475MHz

หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือได้ รับแจ้งเหตุ:ศูนย์รับแจ้งเหตุอุดรธานีเหตุ: มอเตอร์ไซด์ ชน มอเตอร์ไซด์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ






วันเสาร์ที่ 24,มิถุนายน566เมื่อเวลา 07.37  น. หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือได้ รับแจ้งเหตุ:ศูนย์รับแจ้งเหตุอุดรธานีเหตุ: มอเตอร์ไซด์ ชน มอเตอร์ไซด์เมื่อได้รับแจ้งหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ

นำโดย เมธาบ้าน501(ป๋อง)พร้อม รถพยาบาลเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือและ กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือออกตรวจสอบเหตุที่เกิดเหตุ :หน้าเต้นท์รถโชคบุญโชค  ตำบลหายโศก  อำเภอบ้านผือ จังอุดรธานี ก็พบผู้ได้รับบาดเจ็บชาย  อายุ 71 ปี อาศัยอยู่ บ้านนาข่า ต.นาข่า อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย

มีแผลถลอกตามร่างกาย อาสาสมัครสว่างเมธาฯบ้านผือ ได้ทำการปฐมพยาบาลและนำส่ง รพ.บ้านผือเป็นที่เรียบร้อย
การนำเสนอภาพ คลิปวีดีโอ อุบัติเหตุ อาชญากรรม ในเพจมีจุดประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์ ผลงานของอาสาสมัคร หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาบ้านผือ เท่านั้น โดยไม่มีเจตนา หรือ เกี่ยวข้องกับบุคคล หรือ ทุกกรณีที่ปรากกฏในภาพหรือคลิปวีดีโอนั้นๆ และไม่มีผลเกี่ยวข้องใดกับทางคดีความทั้งสิ้น หากผิดพลาดประการใดในการนำเสนอไม่ว่าข้อเท็จจริงหรือสิ่งใด ทางเพจหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาบ้านผือ ต้องกราบขออภัยไว้ ณ ที่นี้




เจ็บป่วย - ฉุกเฉิน โทร 1669/087-105-9749092-295-8333/098-321-7999☎️ศูนย์รับแจ้งเหตุกู้ภัยสว่างเมธาบ้านผือ 168.475MHz
 ศูนย์ข่าวออนไลน์ เมธาบ้านผือนิวส์ บ้านผือทีวีนิวส์

หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอบ้านผือเปิดรับสมัครอาสากู้ชีพ-กู้ภัย


เมธาบ้านผือ501(ป่อง)ติดต่อ 092-295-8333/098-321-7999

หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอบ้านผือ

เปิดรับสมัครอาสากู้ชีพ-กู้ภัย

คุณสมบัติอาสาสมัครกู้ชีพ-กู้ภัย

1.ชาย-หญิง อายุ 18ปี ขึ้นไป (ถ้าอายุไม่ถึง18ปีให้ผู้ปกครองเซ็นต์ ยินยอม)

2.มีจิตอาสา รักงานบริการเเละใช้เวลาว่างช่วยเหลือสังคม ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ โดยไ่ม่หวังสิ่งตอบเเทน ใดๆ

3.มีสุขภาพร่างกายเเละจิตใจเเข็งเเรง ไม่เป็นโรคที่เสี่ยงต่อการทำงาน

4.ไม่มีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยเด็ดขาด

5.สามารถเข้าร่วมกิจกรรมภายในหน่วยได้ ทุกคนที่มาสมัคร จะได้รับการอมรมช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ณ.จุดเกิดเหตุ  เเละเรียนรู้อุปกรณ์จาก วิทยากรเเละรุ่นพี่ ก่อนออกปฏิบัติงานจริง เพื่อความปลอดภัย

6.ต้องปฏิบัติตามกฏระเบียบของหน่วยอย่างเคร่งครัดหากกระทำผิดร้ายเเรง ทางหน่วยสามารถยกเลิกการเป็นอาสาสมัครได้ในทันที

7.ผู้สมัครทุกคนจะได้รับการประเมินจากการทดลองงานโดยมีผู้บริหารเเละหัวหน้าเเต่ละฝ่าย ว่าผ่านการประเมินหรือไม่ก่อนจะเเต่งตั้งเเละอนุญาติ ให้ตัดเครื่องเเต่งกายอาสาสมัคร ตามระเบียบ

*** เอกสารประกอบอาสาสมัคร

-รูปถ่าย1นิ้ว 3รูป (ถ่ายไม่เกิน 6 เดือน)

-สำเนาทะเบียนบ้าน 3 ใบ

-สำเนาบัตรประชาชน 3ใบ

-กรอกใบสมัครได้ที่ห้องวิทยุ หน่วยกู้ภัยเท่านั้น

-ไม่มีค่าใช้จ่ายในการสมัครใดๆทั้งสิ้น

#หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรม จุดบริการ บ้านผือ

ติดต่อ 092-295-8333/098-321-7999

 

 รถยนต์ชนกันที่สี่แยกไฟแดงบ้านถ่อน หมู่12 พังยับเยิน ส่งท้ายวันสงกรานต์ปี2566


วันอาทิตย์ที่16เมษายน2566เมื่อ เวลา 11.30 น. ร.ต.ท. อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีเหตุรถยนต์ชนกันที่สี่แยกไฟแดงหน้าศูนย์เด็กเล็กบ้านถ่อน หมู่12ตำบลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีได้รับความเสีย รถพังยับทั้งสองคันเมื่อได้รับแจ้ง ร.ต.ท. อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวนพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี นำทีมโดยเมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมอาสาเมธาบ้านผือ

รุดไปที่เกิดเหตุก็พบรถทั้งสองคันอยู่ในสภาพพังยับ ส่วนรถยนต์กระบะ หมายเลขทะเบียน ผข 7292 จังหวัดอุดรธานีหน้าพังยับหน้ารถไปทางถนนวังเดือนห้า ห่างไฟแดงไม่กี่เมตร(สงวนนามคนขับรถ) ส่วนรถมิตซูบิชิ หมายเลขทะเบียน  กค 9499 จังหวัดหนองบัวลำภู หน้ารถอยู่บนฟุตบาทรถชนกำแพงได้รับความเสียหายห่างจากไฟแดงไม่กี่เมตร(สงวนนามคนขับรถ)(หมายเหตุไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือผู้เสียชีวิต)เวลาต่อมาร.ต.ท. อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านผือจังหวัดอุดรธานี


 

สอบถามคนขับรถทั้งสองคนเป็นที่เรียบร้อยและบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน ต่อมาร.ต.ท. อดิศักดิ์ สอนบัว พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรบ้านผือได้แนะนำทั้งสองไปที่สถานีตำรวจภูธรบ้านผือเพื่อสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงเหตุรถชนกันเกิดจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ขณะรายงานพนักงานสอบสวนกำลังสอบสวนอยู่ผลออกมาเป็นอย่างไรจะรายงานมาให้ทราบ

  ศูนย์ข่าว อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี 0612301227

 
 
หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือจังหวัดอุดรธานีนำทีมโดย เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมทีมงานอาสาสมัครเมธาบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีซึ่งอยู่ในห้วงสงกรานต์ประจำปี2566ขอพรหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ


วันนี้หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือจังหวัดอุดรธานีนำทีมโดย เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมทีมงานอาสาสมัครเมธาบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีซึ่งอยู่ในห้วงสงกรานต์ประจำปี2566เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)จึงถือโอกาสพาทีมงานอาสาสมัครเมธาบ้านผือไปสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลขอพรหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด หนองคาย อยู่คู่เมืองนี้มาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง และมีการขนานนามว่า “พระพุทธที่สร้างโดยเทวดา” นั่นก็คือ หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ





ที่ตั้งอยู่ใน วัดศรีชมภูองค์ตื้อ ตั้งอยู่ที่ บ้านน้ำโมง ตำบลน้ำโมง อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคายซึ่งเป็นที่ประดิษฐาน หลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองหนองคายมาอย่างยาวนานนั่นเองค่ะ โดยเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองคำ ทองเหลือง และเงินผสมกัน ซึ่งเป็นฝีมือของช่างฝ่ายเหนือและช่างล้านช้าง ลักษณะงดงามอย่างมาก อยู่ในท่านั่งขัดสมาธิ ปางมารวิชัย มีขนาดหน้าตักกว้าง 3.29 เมตร สูง 4เมตร



เวลาต่อมา เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมอาสาสมัครเมธาบ้านขอพรหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ของจังหวัด หนองคายเรียบร้อยแล้วกลับฐานทัพหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีเพื่อปฎิบัติหน้าที่ต่อไป


 

ประวัติหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ

         พระพุทธรูปองค์นี้ได้ก่อสร้างมาแต่ดึกดำบรรพ์มีพระรูปงดงามน่าเลื่อมใส  สร้างในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชครองเมืองเวียงจันทร์  พระสงฆ์ในวัดศรีชมภูองค์ตื้อได้ประชุมปรึกษาหารือกัน  ลงมติจะหล่อพระพุทธรูปองค์นี้ขึ้นในบ้านน้ำโมง  (เดิมเรียกว่าบ้านน้ำโหม่ง) เพื่อเป็นที่เคารพสักการะแก่อนุชนรุ่นหลังต่อ ๆ มา  เมื่อตกลงกันแล้วจึงได้ชักชวนบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย  เพื่อเรี่ยไรทองเหลืองบ้าง  ทองแดงบ้าง  ตามแต่ผู้ที่มีจิตศรัทธาจากท้องที่อำเภอและจังหวัดใกล้เคียง  ได้ทองหนักตื้อหนึ่ง (มาตราโบราณภาคอีสานถือว่า  10  ชั่งเป็นหมื่น 10  หมื่นเป็นแสน  10  แสนเป็นล้าน  10  ล้านเป็นโกฏิ  10  โกฏิเป็นหนึ่งกือ  10  กือเป็นหนึ่งตื้อ)  พระสงฆ์และชาวบ้านจึงพร้อมกันหล่อ  เป็นส่วน  ๆ  ในวันสุดท้ายเป็นวันหล่อตอนพระเกศ ในตอนเช้าได้ยกเบ้าเทแล้วแต่ไม่ติด  เมื่อเอาเบ้าเข้าเตาใหม่  ทองยังไม่ละลายดีก็พอดีเป็นเวลาจวนพระจะฉันเพล  พระทั้งหมดจึงทิ้งเบ้าเข้าเตาหรือทิ้งเบ้าไว้ในเตาแล้วก็ขึ้นไปฉันเพลบนกุฏิฉันเพลเสร็จแล้วลงมาหมายจะเทเบ้าที่ค้างไว้กลับปรากฏเป็นว่ามีผู้เทติด  และตอนพระเกศสวยงามกว่าที่ตอนจะเป็น  เป็นอัศจรรย์สืบถามได้ความว่า  (มีชายผู้หนึ่งนุ่งห่มผ้าขาวมายกเบ้านั้นเทจนสำเร็จ)  แต่ด้วยเหตุที่เบ้านั้นร้อนเมื่อเทเสร็จแล้ว  ชายผู้นั้นจึงวิ่งไปทางเหนือบ้านน้ำโมงมีผู้เห็นยืนโลเลอยู่ริมหนองน้ำแห่งหนึ่งแล้วหายไป  (หนองน้ำนั้นภายหลังชาวบ้านเรียกว่าหนองโลเลมาจนถึงปัจจุบันนี้  และชายผู้นั้นก็เข้าใจกันว่าเป็นเทวดามาช่วยสร้าง)  เมื่อได้นำพระพุทธรูปที่หล่อแล้วมาประดิษฐานไว้ในวัด  มีขุนนางชั้นผู้ใหญ่แห่งเมืองเวียงจันทร์มาเที่ยวบ้านน้ำโมงสองท่านชื่อว่า  ท่านหมื่นจันทร์  กับ  ท่านหมื่นราม  ทั้งสองท่านนี้ได้เห็นพระเจ้าองค์ตื้อก็เกิดศรัทธาเลื่อมใสที่จะช่วยเหลือ  จึงได้ช่วยกันก่อฐาน  และทำราวเป็นการส่งเสริมศรัทธาของผู้สร้าง  ครั้นเมื่อขุนนางทั้งสองได้กลับถึงเมืองเวียงจันทร์แล้ว  ได้กราบทูลพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชซึ่งครองเมืองเวียงจันทร์ในเวลานั้นพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชได้เสด็จมาทอดพระเนตรก็ทรงเกิดศรัทธาจึงได้สร้างวิหารประดิษฐานกับแบ่งปันเขตแดนให้เป็นเขตข้าทาสบริวารของพระเจ้าองค์ตื้อดังนี้           

  1. ทางตะวันออกถึงบ้านมะก่องเชียงขวา( ทางฝั่งซ้ายตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย )
  2. ทางตะวันตกถึงบ้านหวากเมืองโสม ( อำเภอน้ำโสม  จังหวัดอุดรธานี)                                         
  3. ทางทิศใต้ถึงบ้านบ่อเอือดหรือบ่ออาด ( อยู่ในอำเภอเพ็ญ  จังหวัดอุดรธานี)                  
  4. ทางเหนือไม่ปรากฏหลักฐานชัดเจน  คาดว่าน่าจะเป็น  บ้านพานพร้าว  อำเภอศรีเชียงใหม่  จังหวัดหนองคาย  และเมือง “กินายโม้”  ส.ป.ป.ลาว  ในปัจจุบัน                                    

         พลเมืองที่อยู่ในเขตข้าทาสของพระเจ้าองค์ตื้อตั้งแต่เดิมมาต้องเสียส่วยสาอากรให้แก่ทางราชการ   แต่เมื่อตกเป็นข้าทาสของพระเจ้าองค์ตื้อ โดยผู้ใดประกอบอาชีพทางใดก็ให้นำสิ่งนั้นมาเสียส่วยให้แก่วัดศรีชมพูองค์ตื้อทั้งสิ้น  เช่น  ผู้ใดเป็นช่างเหล็กก็ให้นำเครื่องเหล็กมาเสีย  ผู้ใดทำนาก็ให้นำข้าวมาเสีย   ผู้ใดทำนาเกลือก็ให้เอาเกลือมาเสียทางวัดก็มีพนักงานคอยเก็บรักษาและจำหน่ายประจำเสมอ   ที่ด้านหน้าของพระวิหารมีตัวหนังสือไทยน้อยหรือหนังสือลาวเดี๋ยวนี้อยู่ด้วย  แต่เวลานี้เก่าและลบเลือนมากอ่านไม่ได้ความติดต่อกัน  พระเจ้าองค์ตื้อเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ฝีมือช่างฝ่ายเหนือและล้านช้างผสมกัน  นับเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามมาก เป็นพระประธานซึ่งสร้างด้วยทองสัมฤทธิ์องค์ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนั่งขัดสมาธิปางมารวิชัยหน้าตักกว้าง  3 เมตร 29  เชนติเมตร  สูง 4 เมตร ประดิษฐานอยู่ที่วัดศรีชมภู  องค์ตื้อ  ตำบลน้ำโมง  อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย  เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีประชาชนทั้งสองฝั่งแม่น้ำโขง เคารพนับถือมาก สร้างในสมัยใดและใครเป็นผู้สร้างไม่มีประวัติแน่ชัด แต่พอจะถือหลักฐานได้ดังนี้
                หลักฐานการสร้างที่ชาวบ้านเชื่อถือกันทุกวันนี้ซึ่งได้จากศิลาจารึกเขียนเป็นตัวธรรม  เป็นภาษาไทยน้อยมีรอยเลอะเลือน แต่พอเก็บข้อความได้ดังนี้ 
 
ประวัติในหินศิลาจารึกเรื่องหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ บ้านน้ำโมง  ถอดความจากอักษรตัวธรรม หรือภาษาไทยน้อยได้ว่าดังนี้

  1. สร้างเมื่อพุทธศักราช 105 พระวรรษา                                                                                                       
  2. พระชัยเชษฐาเป็นลูกเขยพระยาศรีสุวรรณ ภรรยาของพระชัยเชษฐาคือ  พระนางศรีสมโพธิ   มีลูก 4 คน เป็นชาย  3 คน   เป็นหญิง   1 คน                                                                               
  3. พระชัยเชษฐา เกิดที่เมืองเวียงคุก  ภรรยาเกิดที่เมืองจำปา  ( บ้านน้ำโมง  ) ในปัจจุบันนี้
  4. นามวัด โกศีล สร้างได้  1ปี 3 เดือน สมภาร ชื่อ พระครูอินทราธิราช อายุ  34 ปี พรรษา 15 มีพระอยู่ด้วย 12  รูป   สามเณร  5 รูป                                                                                                                                            
  5. ทางวัดโกศีล  ทางยาว  1 เส้น 5 วา   กว้าง   1 เส้น  10 วา                                                                             
  6. วัดโกศีล เป็นวัดที่สำคัญมากกงจักรเกิดที่วัดนี้ พระชัยเชษฐาจึงเลื่อมใสจึงชักชวนคณะที่มีศรัทธารวม 8 คน สร้างพระพุทธรูปใหญ่หน้าตัก กว้าง3 เมตร สูง 4 เมตร รายนามบุคคลทั้ง8 คือ พระชัยเชษฐา  ท้าวอินทราธิราราช   ท้าวเสนากัสสะปะ    ท้าวอินทร   ท้าวเศษสุวรรณ   ท้าวพระยาศรี  ท้าวดามแดงทิพย์  ท้าวอินสรไกรยสิทธิ์  รวมเป็นคน  12  ภาษาที่มาร่วมกันสร้าง  พระชัยเชษฐาเป็นคนหล่อ     
  7. พระชัยเชษฐาจึงป่าวร้องบริวาร  500  คนมาช่วยหล่อ  เป็นทองเหลือง  เงิน  และคำผสมกันน้ำหนักได้หนึ่งตื้อ  ทำพิธีหล่อเท่าไรก็ไม่สำเร็จ  ต่อเมื่อพระอินทร์และเทพยุดา  108  องค์มาช่วยหล่อจึงสำเร็จ                         
  8. วัดโกศีล  ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง  สร้างอยู่  7  ปี  7  เดือน  จึงสำเร็จเป็นหลวงพ่อองค์ตื้อ
  9. เมื่อหล่อแล้ว  มีอภินิหารเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง  100  อย่าง
  10. พระพุทธรูปองค์นี้สิ้นเงิน  105,000  ชั่ง                                                                  
  11. บ้านที่ขึ้นเป็นบริวารมี  13  บ้านคือ  เมืองเวียงคุก  กองนาง  กำพร้า  จินายโม้  ปากโค  พรานพร้าว ศรีเชียงใหม่หนองคุ้งยางคำ  หนองแซงศรี  สามขา  ท่าบ่อ  พร้าว  บ่อโอทะนา 

ข้อวินิจฉัยในศิลาจารึก

  • ในหลักศิลาจารึกข้อที่  1  ว่า  สร้างเมื่อ  พ.ศ.  105  นั้น  ขัดต่อความเป็นจริง  เพราะพระพุทธศาสนาเริ่มแพร่เข้ามาในประเทศไทยเมื่อ  พ.ศ.  300  ล่วงแล้วเลข  พ.ศ.  ข้างหน้าที่ลบเลือนนั้นคงจะเป็น  พ.ศ. 2150  เพราะในระหว่าง  พ.ศ.  2105  อยู่ในระยะรัชสมัยของพระไชยเชษฐาแห่งเมืองเวียงจันทร์  ซึ่งเป็นระยะไล่เลี่ยกันกับที่พระไชยเชษฐา  ได้ร่วมกับกรุงศรีอยุธยาสร้างเจดีย์  ศรีสองรักษ์ขึ้นที่อำเภอด้านซ้าย  ในจังหวัดเลย  ปัจจุบันนี้ก็ยังคงอยู่พอจะอนุมานได้ว่า  ผู้สร้างวัดศรีชมภูองค์ตื้อ  คงเป็นพระเจ้าชัยเชษฐาแน่
  • ในศิลาจารึกข้อที่  2  ที่ว่าพระชัยเชษฐาเป็นลูกพระยาศรีสุวรรณนั้น  ขัดกับพระราชพงศาวดาร  เพราะพระชัยเชษฐาธิราช  ซึ่งเป็นเจ้าผู้ครองเวียงจันทร์นั้น  เป็นบุตรพระยาโพธิสาร  ดังแจ้งในพงศาวดาว่าพระยามหาพรหมราช  เจ้าเมืองเชียงใหม่ถึงแก่พิลาลัยเมื่อ  พ.ศ.  2082  พระโอรสทรงนามว่า  เจ้าทรายดำ  ได้ครองเชียงใหม่อยู่  3ปีก็ทิวงคต  ไม่มีโอรสราชนัดดาสืบสันติวงศ์  เสนาบดีเมืองเชียงใหม่ลงไปเฝ้าพระเจ้าล้านช้าง  พระเจ้าล้านช้างพร้อมเจ้าเชษฐาวงศ์  ไปเยี่ยมพระศพถึงเชียงใหม่ และต่อมาในปี  พ.ศ. 2091  เสนาพฤฒามาตย์พร้อมกันยกราชสมบัติให้เจ้าเชษฐวงศ์เป็นเจ้าเชียงใหม่  ทรงพระนามว่าพระชัยเชษฐาธิราช  พระยาโพธิสารเสด็จกลับหลวงพระบางได้  2  ปี  ก็ทิวงคตในปี พ.ศ. 2093  พระชัยเชษฐษธิราชจึงกลับไปครองนครล้านช้าง  (จากหนังสือฝั่งขวาแม่น้ำโขง) ข้อนี้ไม่มีหลักฐาน พระยาศรีสุวรรณกัลป์พระยาโพธิสารอาจเป็นคน ๆ เดียวกันก็ได้
  • ในศิลาจารึกข้อที่  3  ว่า  พระชัยเชษฐาเกิดที่เมืองเวียงคุก  ไม่น่าเป็นไปได้  เพราะพระยาโพธิสารธรรมมิกราชบิดาครองราชย์สมบัติอยู่ที่นครล้านช้าง  หลวงพระบาง พระชัยเชษฐาต้องเกิดที่ล้านช้าง  ส่วนเวียงคุกนั้นมาเจริญรุ่งเรืองขึ้นทีหลัง  เมื่อพระเจ้าชัยเชษฐาได้ขึ้นครองราชย์สมบัติที่เวียงจันทน์แล้ว  แล้วที่ว่าภรรยาเกิดที่เมืองจำปาน้ำโมงนั้นไกลความจริงมาก  เพราะพระอัครมเหสีของพระเจ้าชัยเชษฐเป็นธิดาพระเจ้าเชียงใหม่  หรือว่าจะเป็นภรรยาน้อย  ข้อนี้ไม่มีหลักฐานยืนยัน
  • ในศิลาจารึกข้อ 4  ชื่อวัดว่า “วัดโกศีล”นั้นน่าจะเป็นโกสีย์มากกว่า แต่ปัจจุบันนี้ ชื่อวัดศรีชมภูองค์ตื้อ
  • ในศิลาจารึกข้อ  5  เขตวัดทางยาวและทางกว้างแคบกว่าที่กล่าวไว้ในศิลาจารึก  ทั้งนี้เข้าใจว่า  ทางหน้าวัดน้ำเซาะทางทิศเหนือและทิศใต้ให้แคบลง  (เมื่อปี  พ.ศ. 2489)  ได้ตรวจสอบวัดดูปรากฏว่า  แคบไม่ตรงกับศิลาจารึกแต่ปัจจุบันนี้ทางวัดได้ซื้อขยายออกไปมากแล้วทางด้านทิศเหนือและทิศตะวันตก
  • ในศิลาจารึกข้อ  6  ว่า  กงจักรเกิดขึ้นนั้น คงมีรูปกงจักรอันเป็นรูปธรรมจักร  ซึ่งมีตามวัดเก่า   ในสมัยก่อน  แต่ปัจจุบันนี้หาดูไม่ได้แล้ว
  • ในศิลาจารึกข้อ 7  พระชัยเชษฐามีบริวารถึง  500 นี้  ต้องเป็นที่เชื่อได้ว่าเป็นพระชัยเชษฐาผู้ครองนครเวียงจันทน์แน่การนับน้ำหนักและจำนวนในสมัยก่อนนั้น  เขานับ  สิบ-ร้อย-พัน-หมื่น-แสน-ล้าน-โกฏิ-ตื้อ  แต่ถ้าหมายถึงจำนวน ก็เติมอะสงไขยเข้าไปอีกเป็นอันดับสุดท้าย  เพราะฉะนั้น  คำว่า ตื้อ  จึงเป็นน้ำหนักที่มากที่สุดแล้ว  การสร้างพระมานานถึง  7  ปี  7  เดือน  เห็นจะรวมน้ำหนักที่แน่นอนไม่ได้  พระก็องค์ใหญ่ที่สุดในสมัยนั้น  สร้างก็ยาก  หมดเปลืองก็มาก  เพื่อให้สมกับความยากลำบากจึงกำหนดเอาว่า  สร้างด้วยทองหนัก  1  ตื้อ  ซึ่งความจริงสมัยนั้นจนถึงสมัยนี้ก็ไม่มีใครรู้จริง ๆ ว่า  โกฏิและตื้อนั้นมีค่าเท่าใดกันแน่  คงนับกันไปอย่างนั้นเอง
    การหล่อพระศักดิ์สิทธิ์  มักจะเป็นพระอินทร์หรือตาปะขาวมาช่วยจึงสำเร็จ  ทั้งนี้เพราะเหตุผล  2 ประการ คือ  ประการแรกต้องการจะให้คนนับถือ  ประการที่สองสมัยนั้น  คนดีมีวิชาอยู่ไม่ค่อยได้  เพราะจะถูกรังแก  จึงแกล้งปกปิดไว้ว่า  เป็นเทวดามาหล่อ
  • ในศิลาจารึกข้อ  8  ว่า  วัดโกศีลตั้งอยู่ริมน้ำโขงนั้น  เป็นความจริง  เพราะตามธรรมดาแม่น้ำย่อมคดเคี้ยว  และเกิดมีคุ้งน้ำขึ้น  น้ำโขงซึ่งกว้างราว  1  กม.เศษ  ไหลผ่านศรีเชียงใหม่ พุ่งไปปะทะตอนใต้นครเวียงจันทน์  จินายโม่และบ่อโอทะนา  เมื่อปะทะฝั่งลาวแล้ว  กระแสน้ำก็กลับพุ่งมาปะทะฝั่งไทยตอนใต้ท่าบ่อ  กระแสน้ำจะไหลปะทะสลับฝั่งกันเช่นนี้เรื่อยไป  เมื่อถึงหน้าน้ำราว ๆ เดอน  7-9 น้ำจะเต็มฝั่งหรือล้นฝั่ง  กระแสน้ำในแม่น้ำโขงจะไหลเชี่ยวเร็วประมาณ  15.20  กม.  ทีเดียวฝั่งที่ถูกปะทะก็จะพัง  ฝั่งตรงข้ามตอนใต้คุ้งน้ำ น้ำจะไหลค่อยและวน  ดินจะตกตะกอนเมื่อน้ำลดก็จะเกิดเป็นดินงอกทุกปี  วัดน้ำโมงก็เช่นเดียวกัน  เดิมตั้งอยู่ริมโขงจริง  แต่อยู่ใต้คุ้งน้ำตรงข้ามกับจินายโม่และบ่อโอทะนา  ดินหน้าวัดจึงงอกออกเรื่อยมาเราจึงเห็นกันว่า  วัดน้ำโมงจะอยู่ห่างจากตลิ่งแม่โขงไปทุกทีอย่างเช่นทุกวันนี้
  • ในศิลาจารึกข้อ  9  เมื่อหล่อแล้วมีอภินิหารเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง  100  อย่างนั้น  ในข้อนี้ ความเชื่อถือของชาวเมืองเชื่อมั่นว่า  มีผีหรือเทวดารักษา  คนนับถือมาก  บางคนเจ็บไข้ได้ป่วยไปขอน้ำมนต์มากินก็หายได้  คนไม่มีลูกไปขอก็มีได้  อะไรต่อมิอะไรร้อยแปดมากกว่า  100  อย่างเสียอีก
  • ในศิลาจารึกข้อ  10  ว่า  การสร้างสิ้นเงินไปถึง  105,000  ชั่ง  แต่ถ้าจะคิดถึงค่าราคาแห่งพระพุทธรูปงามองค์นี้  ในปัจจุบันแล้วมีค่าเหลือที่จะคณานับได้  เมื่อผู้ใดเข้าไปใกล้เฉพาะพระพักตร์แล้ว  จะหายทุกข์โศกทันที  พระพักตร์อมยิ้มนิด ๆ พระเนตรลืมสนิท  พระนลาฏกว้างพระร่างอูม  ส่วนพระกายนั่งตรงได้ส่วนสัด ประทับอยู่ในท่าสงบ  ผินพระพักตร์ไปทางทิศตะวันออก  ทำให้ผู้ได้พบเห็นองค์พระองค์ตื้อ  เกิดมโนภาพคล้าย ๆ เข้าไปนั่งอยู่เฉพาะพระพักตร์ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า  ทำให้เกิดความปีติและมีศรัทธาขึ้นทันที  อันเป็นธรรมาภินิหารเกิดขึ้นแก่ผู้ที่ได้พลเห็น  ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีค่ายิ่งกว่าสมบัติใด ๆ ที่ท่านโบราณาจารย์วางราคาไว้ถึง 105,000  ชั่ง  ข้าพเจ้าคิดว่ายังถูกไป
  • ในศิลาจารึกข้อ  11  นั้น  แสดงให้เห็นว่า  เป็นวัดซึ่งพระเจ้าชัยเชษฐาเป็นผู้สร้างแน่  เพราะมีบริวารถึง 13  บ้าน  วัดที่จะมีบริวารได้ต้องเป็นวัดหลวง  ชาวบ้านเหล่านั้นต้องส่งส่วยแก่วัดโดยไม่ต้องกระทำกิจใด ๆ แก่ทางราชการ  คงเป็นแต่ข้าของพระองค์ตื้อ  เช่นเดียวกับข้าพระธาตุพนม  ซึ่งยังคงถือเป็นประเพณีมาจนทุกวันนี้ ในวันเทศกาลนมัสการพระองค์ตื้อ  ชาวบ้านที่เป็นข้าจะต้องนำเครื่องมาสักการะบูชา  ถ้ามิฉะนั้น  ผีหรือเทวดาผู้รักษาจะลงโทษ

 ปาฏิหาริย์ของพระเจ้าองค์ตื้อ 

  • มีเรื่องเล่ากันว่า  ครั้งหนึ่งพวกฮ่อได้ยกทัพข้ามโขงมาขึ้นที่ฝั่งวัดน้ำโมง  เพื่อหวังจะทำลายพระองค์ตื้ออันเป็นที่เคารพสักการะของปวงชนแถบนั้น  เพื่อเป็นการทำลายขวัญของพวกชาวบ้าน  ขณะที่ข้าศึกได้จ้วงขวานฟันลงไปที่พระชานุของพระองค์ตื้อนั้น  ก็ปรากฏเสียงร้องออกจากพระโอษฐ์  และมีพระดลหิตไหลออกจากแผลที่พระชานะ  พร้อมกับมีน้ำพระเนตรไหลซึมออกมาเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก  ข้าศึกเป็นอัศจรรย์เช่นนั้นก็เกรงจะเกิดภัยจึงได้รีบยกทัพกลับ  แต่ก็ปรากฏว่าพวกฮ่อถึงแก่ความตายจนหมดสิ้น  ทุกวันนี้แผลเป็นที่พระชานุก็ยังปรากฏอยู่
  • ในสมัยก่อนผู้คนสัญจรไปมาจะสวมรองเท้าเข้าไปในวัดไม่ได้จะต้องมีอันเป็นไปโดยประการต่าง ๆ แม้แต่เจ้านาย  ที่เข้ามาถือน้ำพิพัฒนสัตยา จะสวมรองเท้าเข้าไปในวิหารนั้นก็ไม่ได้  ถ้าบุคคลใดฝ่าฝืนก็จะได้รับโทษโดยประการต่าง ๆ เช่นเจ็บป่วยโดยกระทันหัน เป็นต้น
  • บุคคลที่ไม่มีบุตรธิดาสืบสกุล  มีดอกไม้ธูปเทียนหรือเครื่องสักการะอย่างอื่นมาทูลขอบุตรธิดาจากพระองค์  บุคคลผู้นั้นก็จะได้กุลบุตรธิดาสืบสกุล  สมความมุ่งมาดปรารถนา  แต่บุตรธิดาที่พระองค์ประทานให้แล้วนั้น  บิดามารดาจะทำโทษหรือเฆี่ยนตีโดยประการใด ๆ ไม่ได้  ต้องสั่งสอนเอาโดยธรรมเท่านั้น
  • บุคคลผู้ใดของหาย  เช่น เงิน ทอง  โค  กระบือ  เป็นต้น  มีดอกไม้ธูปเทียนเครื่องสักการะมาบูชาบวงสรวง  เพื่อให้ได้สิ่งของนั้นคืนมา  ก็จะได้คืนมาสมประสงค์
  • ทรัพย์สมบัติของใครหาย  ไม่ทราบว่าผู้ใดมาลักขโมยเอไป  เจ้าของทรัพย์มีความสงสัยผู้ใด  ก็นำบุคคลผู้นั้นมาทำสัตย์สาบานต่อพระพักตร์ของพระเจ้าองค์ตื้อ  ถ้าบุคคลนั้นไม่ได้เอาก็ไม่เป็นอะไร  แต่ถ้าบุคคลนั้นเอาไปจริง ๆ แต่ปฏิเสธไม่ยอมรับตามความเป็นจริง  บุคคลผู้นั้นก็จะได้รับโทษ  เช่น  เจ็บป่วยหรืออาจถึงแก่ความตายได้
  • บุคคลผู้ใดไปศึกสงครามได้มาบนบานขอให้พระเจ้าองค์ตื้อคุ้มครอง  บุคคลผู้นั้นก็จะปลอดภัยประสพแต่ความสวัสดีมีชัยกลับมา  และบุคคลผู้ใดมีความปรารถนาอยากจะให้มีความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต  นำเครื่องสักการะมาบูชาพระเจ้าองค์ต้อ  ขออานุภาพของพระองค์ตื้อคุ้มครองและบันดาลให้เกิดมีความเจริญรุ่งเรืองในการประกอบอาชีพที่สุจริต  บุคคลผู้นั้นก็จักเจริญสมความมุ่งมาดปรารถนาทุกประการ
  • อนึ่ง  การเจ็บไข้ได้ป่วยจนถึงกับล้มหมอนนอนเสื่อไปมาไม่ได้  บางคนก็ให้ญาติพี่น้องไปบูชาแผ่นทองปิดองค์หลวงพ่อใหญ่ หรือพรพุทธรูปจำลอง  ตั้งจิตอธิษฐานปิดตรงที่เจ็บปวดนั้น  ปรากฏว่าโรคนั้นได้หายไปดังจิตอธิษฐาน 

ความสำคัญทางประวัติศาสตร์และสังคม

         ในอดีตพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชกษัตริย์ล้านช้างผู้สร้างพระเจ้าองค์ตื้อพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ทรงสถาปนาและทำนุบำรุงปฏิสังขรณ์วัดวาอารามต่าง ๆ มากมาย  พุทธศิลป์ในยุคนี้ได้รับอิทธิพลจากล้านนามาก รวมทั้งพระเจ้าองค์ตื้อ  พระพุทธรูปทองสำริดขนาดใหญ่ที่วัดองค์ตื้อ  นครเวียงจันทน์  และวัดศรีชมภูองค์ตื้อ  บ้านน้ำโมง  อำเภอท่าบ่อ  จังหวัดหนองคาย
         สิทธิพร  ณ  นครพนม  อธิบายไว้ในเอกสารประกอบการสัมมนาพัฒนาการทางประวัติศาสตร์ท้องถิ่น จังหวัดหนองคายว่า  “พระเจ้าองค์ตื้อ”  พระพุทธรูปขนาดใหญ่หนัก  1  ตื้อ  (ประมาณ  12,000 กิโลกรัม  ตื้อเป็นมาตรวัดของคนล้านนา)  ศิลปะล้านนา  สร้างเมื่อพ.ศ. 2105  เชื่อกันว่า  เป็นพระพุทธรูปฉลองพระองค์ของพระนางยอดคำทิพย์  พระบรมราชชนนีของพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช  ทั้งกำหนดเป็นพระราชพิธีที่กษัตริย์เวียงจันทน์ต้องเสด็จมานมัสการ  พระเจ้าองค์ตื้อทุกเดือน  4  เสด็จพร้อมขบวนช้าง  ม้า  มาสักการะจากวัดท่าคกเรือ  อำเภอท่าบ่อถึงวัดพระเจ้าองค์ตื้อ  เป็นระยะทาง  10  กิโลเมตร  ถนนนี้จึงมีชื่อว่า  “จรดลสวรรค์”  มาจนถึงปัจจุบัน
         เมื่อวันที่  20  กันยายน  พ.ศ.  2520  สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช  สยามมกุฎราชกุมาร  พร้อมด้วยพระเจ้าวรวงศ์เธอ  พระองค์เจ้าโสมสวลี  พระวรชายาทินัดดามาศ  เสด็จเป็นองค์ประธานยกช่อฟ้าขึ้นสู่วิหารประดิษฐานหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ  พร้อมทั้งได้อัญเชิญพระนามาภิไธยย่อ  (ม.ว.ก.)  ขึ้นประดิษฐานที่หน้าบรรณของวิหารหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อ  และได้ทรงมอบพระนามาภิไธยของทั้งสองพระองค์จารึกลงในแผ่นศิลาหินอ่อนไว้ด้านหน้าของตัววิหารหลวงพ่อพระเจ้าองค์ตื้อด้วย

1-2 เมษายน 2566  เมธาบ้านผือ ได้ส่งอาสาสมัครเข้ารับการฝึกอบรมวิธีการจับงู  จับยังไงให้ปลอดภัยทั้งคน ทั้งงู เพื่อนำความรู้กลับมาช่วยเหลือประชาชนที่งูเข้าบ้านเรือน  ก่อนอื่นต้องขอขอบพระคุณทีมงาน ครูฝึกและสต๊าฟ ทีมผู้ช่วยครูฝึก #ภารกิจนี้คือชีวิต  #Snake_rescue_thailand  ที่เสียสละกำลังใจ กำลังกาย กำลังทรัพย์ เสียสละเวลาอันมีค่า


มาให้ความรู้โดยไม่ได้รับค่าตอบแทนใด ๆ จากนักเรียน นอกจากให้ความรู้แล้วยังมอบของที่ระลึกเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้  พวกเราไม่มีอะไรตอบแทนนอกจากคำว่า "ขอขอบพระคุณจากก้นบึ้งของจิตใจ" และจะนำความรู้ที่ได้รับมา ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและถ่ายทอดต่อในส่วนที่จำเป็นตามเจตนารมณ์ของครู ที่ลืมไม่ได้ขอขอบพระคุณครูกบ อกนิษฐ์ พลาลำ




เจ้าของโครงการที่ทำให้เกิดโครงการดี ๆ เช่นนี้และหากมีโครงการดี ๆ แบบนี้อีกก็จะยังไปร่วมอีกนะคะนอกจากความรู้แล้วสิ่งที่ได้กลับมาด้วยคือมิตรภาพ ไมตรีจิตที่ดีต่อกัน ได้เพื่อน ได้พี่ ได้น้องเป็นของขวัญกลับมาด้วย เราผู้เกิดมาเพื่อให้ด้วยบุญจึงมาเจอกันขอขอบพระคุณจากใจอีกครั้งค่ะ










จักรยานยนต์ชนคนเดินเท้าที่เกิดเหตุ :บ้านภูดิน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี

วันพุธที่ 8มีนาคม2566เมื่อเวลา 11:25น.รับแจ้งเหตุ:ศูนย์สั่งการอุดรธานีเหตุ:จักรยานยนต์+คนเดินเท้าที่เกิดเหตุ :บ้านภูดิน อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี รถพยาบาลเมธาบ้านผือ พร้อม กำลังอาสาสมัครเมธาบ้านผือออกตรวจสอบเหตุมีผู้บาดเจ็บเป็นชายอายุ18ปี(สงวนนาม) มีแผลถลอกตามร่างกายและแขนซ้ายผิดรูป อาสาเมธาบ้านผือได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นนำส่งรพบ้านผือเป็นที่เรียบร้อยข่าวโดย #อาสาปลาเมธาบ้านผือ ว.4 งานจราจร งานสรงน้ำพระสาลีริกธาตุ วัดป่าบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ประจำปี 2566 ขอขอบพระคุณ หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอเพ็ญ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้เช่นเคยเหมือนทุกปีที่ผ่านมาค่ะอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ไร้ซึ่งค่าตอบแทน ทุ่มแรงกาย แรงใจเพื่อช่วยเหลือสังคมพวกเราชาวกู้ภัยทุ่มสุดแรง สุดใจ เพื่อให้ทุกชีวิตปลอดภัย วันที่ 1 มีนาคม 2566 กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบเช่นเคย ขอบพระคุณที่ยังนึกถึงพวกเราเสมอทั้งที่แจ้งหยุดให้บริการชั่วคราวก็ยังมีโทรมาขอความช่วยเหลือ ทำให้มีกำลังใจรีบหาเงินมาซ่อมรถพยาบาลเพื่อมาให้บริการอีกครั้งหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอบ้านผือติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ 092-295-8333 หรือ 098-321-7999

ว.4 งานจราจร งานสรงน้ำพระสาลีริกธาตุ วัดป่าบ้านค้อ ต.เขือน้ำ อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี ประจำปี 2566  



 

ว.4 งานจราจร งานสรงน้ำพระสาลีริกธาตุ วัดป่าบ้านค้อ ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ประจำปี 2566 

 ขอขอบพระคุณ หน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอเพ็ญ ที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงให้เช่นเคยเหมือนทุกปีที่ผ่านมาค่ะอาสาสมัครกู้ชีพ กู้ภัย ไร้ซึ่งค่าตอบแทน ทุ่มแรงกาย แรงใจเพื่อช่วยเหลือสังคมพวกเราชาวกู้ภัยทุ่มสุดแรง สุดใจ เพื่อให้ทุกชีวิตปลอดภัย

วันที่ 1 มีนาคม 2566 กลับมาให้บริการเต็มรูปแบบเช่นเคย ขอบพระคุณที่ยังนึกถึงพวกเราเสมอทั้งที่แจ้งหยุดให้บริการชั่วคราวก็ยังมีโทรมาขอความช่วยเหลือ ทำให้มีกำลังใจรีบหาเงินมาซ่อมรถพยาบาลเพื่อมาให้บริการอีกครั้งหน่วยกู้ภัยอุดรสว่างเมธาธรรม จุดบริการอำเภอบ้านผือนำทีมโดยเมธาบ้านผือ501(ป๋อง)  ติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่  092-295-8333  หรือ 098-321-7999

วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม2565เมื่อเวลา16.30น ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ ได้รับแจ้งเหตุ จากองค์การบริหารส่วนตำบลหายโศกว่ามีเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตถนนสาย บ้านผือ  ท่าบ่อ บ้านดงหวายหมู่12ตำบลหายโศกอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เมื่อได้รับแจ้ง ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือ- กู้ชีพ อบต.หายโศกหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดยเมธาบ้านผือ501(ป๋อง)และอาสามัครเมธาธรรมบ้านผือ รุดไปที่เกิดเหตุ




พบรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา หมายเลขทะเบียน กต.2025 เลย ด้านหน้าพังคนขับ (ทราบชื่อภายหลัง)ชื่อ น.ส.ณัฐนันท์  ก้อมมะณี อายุ 36 ปี ห่างประมาณ50 เมตร ก็พบศพผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิง(ทราบชื่อภายหลังชื่อนางบัววัน  โถทอง อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 97 บ้านหนองนกเขียน หมู่ 7 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  ห่างประมาณ 10 เมตร ก็พบรถจักรยานยนต์.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่กลางถนน สภาพพังเสียหายทั้งคัน ส่วนผู้ขับ รถจักรยานยนต์.(ทราบชื่อภายหลัง)ชื่อนายบัวเครือ  บุญเที่ยง อายุ 52 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลาต่อมา ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือร่วมกันชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็มอบหมายให้ กู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดย เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมอาสาสมัครเมธาธรรมบ้านผือนำส่งโรงพยาบาลบ้านผือและติดต่อญาตผู้เสียชีวิตเพื่อให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพ อบต.หายโศก ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้อยู่ในการดูแลรับผิดชอบชองโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีตามลำดับต่อไป





วันศุกร์ที่ 2 ธันวาคม2565เมื่อเวลา16.30น ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ ได้รับแจ้งเหตุ จากองค์การบริหารส่วนตำบลหายโศกว่ามีเหตุรถเก๋งชนกับรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิตถนนสาย บ้านผือ  ท่าบ่อ บ้านดงหวายหมู่12ตำบลหายโศกอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เมื่อได้รับแจ้ง ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือ- กู้ชีพ อบต.หายโศกหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดยเมธาบ้านผือ501(ป๋อง)และอาสามัครเมธาธรรมบ้านผือ รุดไปที่เกิดเหตุ พบรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นยาริส สีเทา หมายเลขทะเบียน กต.2025 เลย ด้านหน้าพังคนขับ (ทราบชื่อภายหลัง)ชื่อ น.ส.ณัฐนันท์  ก้อมมะณี อายุ 36 ปี ห่างประมาณ50 เมตร ก็พบศพผู้เสียชีวิต 1 คน เป็นหญิง(ทราบชื่อภายหลังชื่อนางบัววัน  โถทอง อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 97 บ้านหนองนกเขียน หมู่ 7 ต.หายโศก อ.บ้านผือ จ.อุดรธานี  ห่างประมาณ 10 เมตร ก็พบรถจักรยานยนต์.ฮอนด้า เวฟ สีน้ำเงิน-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนล้มตะแคงอยู่กลางถนน สภาพพังเสียหายทั้งคัน ส่วนผู้ขับ รถจักรยานยนต์.(ทราบชื่อภายหลัง)ชื่อนายบัวเครือ  บุญเที่ยง อายุ 52 ได้รับบาดเจ็บสาหัส เวลาต่อมา ร.ต.ท.อดิศักดิ์  สอนบัว รอง สว.(สอบสวน)สถานีตำรวจภูธรบ้านผือ พร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลบ้านผือร่วมกันชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นเรียบร้อย ก็มอบหมายให้ กู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดย เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมอาสาสมัครเมธาธรรมบ้านผือนำส่งโรงพยาบาลบ้านผือและติดต่อญาตผู้เสียชีวิตเพื่อให้มารับศพไปบำเพ็ญกุศลต่อไป ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บ กู้ชีพ อบต.หายโศก ได้นำผู้ได้รับบาดเจ็บส่ง โรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีเพื่อให้อยู่ในการดูแลรับผิดชอบชองโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานีตามลำดับต่อไป

 
อุดรธานี    จักรยานยนต์ชนสุนัข บาดเจ็บ3ราย


วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม2565เมื่อ  เวลา 16:43น. รับแจ้งเหตุ: พลเมืองดีเหตุ: จักรยานยนต์ชนสุนัขเมื่อได้รับแจ้งหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดย เมธาบ้านผือ 501(ป๋อง)พร้อมอาสาสมัครเมธาบ้านผือและรถพยาบาลหน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือรุดไปที่เกิดเหตุหน้าวิลัยการอาชีพบ้านผือ  ตำบลบ้านผือ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ก็พบผู้บาดเจ็บ2รายเป็นหญิง1ราย ชาย1รายมีแผลถลอกตามร่างกาย(สงวนชื่อผู้ได้รับบาดเจ็บ) เวลาต่อมาอาสาสมัครเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือ ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเคลื่อนย้ายนำส่งโรงพยาบาลบ้านผืออำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี


 

อุดรธานี-กระบะชนจักรยานยนต์บนถนนสายบ้านผือ-ไปอุดร ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ




 

วันศุกร์ที่4พฤศจิกายน2565เมื่อเวลาประมาณ 00:44น. ได้รับแจ้งเหตุ กระบะชนจักรยานยนต์บนถนนสายบ้านผือ-ไปอุดรระหว่าง(บ้านโคกสีแก้ว)อำเภอบ้านผือจังหวัดอุดรธานี เมื่อได้รับแจ้ง หน่วยกู้ภัยสว่างเมธาธรรมจุดบริการบ้านผือนำทีมโดย เมธาบ้านผือ501(ป๋อง)พร้อมอาสาสมัคร #กู้ภัยสว่างเมธาจุดบ้านผือ และรถพยาบาล 1 คัน ออกตรวจสอบที่เกิดเหตุ

 เมื่อถึงที่เกิดเหตุก็พบผู้เสียชีวิต ณ ที่เกิดเหตุเป็นชาย1 ราย อายุ16ปี เป็นคน ตำบลเขือน้ำ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานีผู้เสียชีวิต เป็นชาย ทราบชื่อเวลาต่อมาชื่อ นาย กฤษฎา อุ่นแสนสุข 16ปี เป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียชีวิต

ณ.ที่เกิดเหตุจึงทำการประสานแพทย์เวร โรงพยาบาลบ้านผือ พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบ้านผือร่วมชันสูตรส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้รอเจ้าหน้าที่ทำการสอบสวนหาสาเหตุต่อไป

{Fullwidth}{Fullwidth}

Please Select Embedded Mode To Show The Comment System.*

ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

สื่อโฆษณาร้านวราภรณ์

เมธาบ้านผือนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304. >